CEO TALK#16 วันอาทิตย์ที่ 14
กรกฏาคม 2562
หัวข้อ Digital
Marketing 2019 ปรับมุมคิดเพื่อธุรกิจ
โดย คุณพงศธร จิรนันท์ธวัช
จุดเริ่มต้นของการมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านDigital Marketing เป็นคนที่เรียนไม่เก่งทางคุณพ่อของคุณพงศธรจึงให้มาช่วยงานที่เป็นธุรกิจของครอบครัวทำเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์ของญี่ปุ่น
จากนั้นไม่นานหัวหน้าครอบครัวได้เสียชีวิตลงคนในครอบครัวไม่มีใครสามารถที่จะบริหารธุรกิจของครอบครัวได้
จึงทำให้บริษัทล้ม เป็นหนี้สินเยอะแยะมากมาย
จึงได้รวมรวบเงินที่มีทั้งหมดมาเพื่อหันมาทำธุรกิจทางด้านตลาดหลักทรัพย์ (เล่นหุ้น)
แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ โดยในตอนนั้นมีเงินอยู่ในมือทั้งหมด 70,000 บาท จึงได้นำเงินส่วนนั้นไปลงทุนทำเสื้อกันน้ำไปขายที่ตลาดนัด
ตอนนั้นขายได้3ตัว ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จากนั้นมีเงินก้อนสุดท้ายในมือแค่ 3,000 บาท
จึงตัดสินใจซื้อของไปขายในเว็บไซต์Lazada ขายอยู่6เดือน
ขายได้เงิน 2,000,000 บาท
จากนั้นเมื่อต้นปีมกราคม จึงได้มีความสนใจเรื่องของ Facebook Marketing โดยได้มีการสมัครเข้าเรียน
ครอสซึ่งเป็นครอสที่เปลี่ยนชีวิตของคุณพงศธรก็ว่าได้ หลังจากที่คุณพงศธรได้ทำยอดขายขึ้นมาเป็นหลักแสน
โดยการเริ่มการใช้Facebook Ads บนหน้าฟีดของFacebook คุณพงศธรได้มีการสอนว่า ถ้าอยากขายอะไรให้เราไปศึกษาคู่แข่ง
และดูวิธีการขายของเขาให้ละเอียด ว่าเขาทำการตลาดอย่างไร ขายแบบไหน
โดยคุณพงศธรได้ให้ข้อคิดมาว่า ส่วนมากคนจะมองที่ว่า สินค้าดีอย่างไร จนเราจะมาขาย
หรือสินค้าที่เขาต้องการแต่ยังไม่มีคนมาขาย ให้เราหาDemand ให้ได้ก่อน
หลักในการขายสินค้าในช่องทางOnline คือ
1).ในwebsite หลักๆแล้วอะไรที่ขายดีเอามาขายแต่ต้องดูว่าสินค้าเหล่านั้นมีคนมาขายเยอะหรือยัง
2).หาเพจที่มีการโพสต์ขายสินค้าเยอะ มีการกดlike กดshare แต่การโฆษณาไม่ดี เราก็จับเอาสินค้านั้นมาทำ โดยการนำสินค้ามาทำFacebook Ads เจาะสินค้านั้นๆ
3).การหาโปรแกรมที่ช่วยดูเรื่องการสินค้าประเภทไหนที่มีคนสนใจมีจำนวนยอดกดlikeกด Share มาก และเข้าไปศึกษาขั้นตอนและนำสินค้านั้นมาขาย
*อย่าเริ่มว่าเราอยากขายอะไรแต่ต้องเริ่มว่าเขาต้องการอะไร
หลักทฤษฎีที่นำมาใช้ในการวิเคราะห์ คือ ทฤษฎี3C
กลยุทธ์ 3C เพิ่มพลังให้การตลาดแข็งแกร่งขึ้น
กระแสการแข่งขันในเชิงธุรกิจที่นับวันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
ทำให้ธุรกิจทุกประเภทและทุก
ขนาดไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจออนไลน์ที่ต้องนำกลยุทธ์ต่างๆเข้ามาใช้ในการวางแผนด้านการตลาด
กลยุทธ์ 3C ที่ประกอบด้วย “Company-
Customer– Competitor” คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยไข กลยุทธ์ไปสู่การวางแผนด้านการตลาดที่ดีที่สุด
โดยเริ่มจาก Company หรือ C ตัวแรกที่ให้ความสำคัญและคำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก
และCustomer อักษร C ตัวที่สองที่เน้นด้านการแข่งขัน
กล้าเสี่ยง กล้าลงทุน
และกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ ส่วนอักษร C ตัวสุดท้ายคือ Competitor ซึ่งหมายถึงการพัฒนาในทุกๆด้าน
ทั้งในด้านความคิดและตัวสินค้า
C1 (Company) ซึ่งเป็นอักษร C ตัวแรกทำให้เราต้องถามตัวเองก่อนว่าร้านค้าออนไลน์ของเรานอกจากขายสินค้าคุณภาพแล้วยังต้องนำเสนออะไรให้กับลูกค้าเพื่อสร้างความพึงพอใจ
ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ
เมื่อเรานำมาวิเคราะห์จะเห็นว่าจุดอ่อนของร้านค้าออนไลน์โดยทั่วๆไปก็คือการจัดส่งสินค้าที่ล่าช้าหรือมีการเปิดสั่งสินค้าเป็นรอบเพื่อให้ความสะดวกต่อการจัดหาหรือจัดส่งสินค้าของร้านค้าออนไลน์เหล่านั้น
ในประเด็นนี้คือ
ชูความสามารถของผลิตภัณฑ์ให้มีความโดดเด่นตอบโจทย์ให้ลูกค้าเห็นสินค้าของเราดีกว่าสินค้าร้านอื่น
C2
(Customer) ในกลยุทธ์ 3C ซึ่งหมายถึงการแข่งขัน
กล้าเสี่ยง กล้าลงทุน
และกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จในการทำธุรกิจ สิ่งสำคัญในกลยุทธ์
C2 ก็คือนักธุรกิจออนไลน์ทุกคนควรรู้ว่าลูกค้าหลักๆของเราคือใครเป็นลูกค้ากลุ่มไหน
เพราะลูกค้าแต่ละกลุ่มจะมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันเมื่อนำกลยุทธ์ Customer ซึ่งเป็นอักษร C ตัวที่สองมาใช้จึงนอกจะต้องวางแผนด้านการตลาดให้สอดคล้องกับความพึงพอใจของลูกค้าตาม
Company หรืออักษร C ตัวที่หนึ่งแล้วเจ้าของร้านค้าออนไลน์ทุกประเภทและทุกขนาดทั้งเล็กและใหญ่ต้องมีภาวะความเป็นผู้นำที่จะสามารถคิดวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างเข้าใจการวิเคราะห์ความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีต่อสินค้าหรือร้านค้าออนไลน์ของเราจะเป็นตัวกำหนดทิศทางช่วยให้ก้าวสู่การแข่งขันในทุกๆด้านได้อย่างแข็งแกร่ง
ในเรื่องนี้ คือ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีมูลค่าให้โดนใจลูกค้า และกล้าที่จะลงทุน
ยิง Ad marketing เป็นการลุงทุน
C3 (Competitor) ในกลยุทธ์
3C ซึ่งหมายถึงการพัฒนาในทุกๆด้าน
ทั้งในด้านความคิดและตัวสินค้า สำหรับการพัฒนาในด้านตัวสินค้าอาจเน้นไปที่การทำธุรกิจอื่นทั่วไป
ส่วนในธุรกิจออนไลน์การแข่งขันกันด้วยยุทธวิธีหรือในด้านความคิดเป็นปัจจัยหลักที่จะนำมาใช้วางแผนการตลาดเพื่อสร้างความแตกต่างในด้านการแข่งขันและสามารถสู้กับคู่แข่งทางการค้าได้อย่างแข็งแกร่ง
และยั่งยืน ซึ่งวิธีที่นำมาใช้จะทำให้ร้านค้าออนไลน์ของตนเองประสบความสำเร็จมากน้อยหรือไม่เพียงใดก็คงต้องขึ้นอยู่กับภาวะผู้นำของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่จะใช้ทักษะวิเคราะห์การตลาดออกมาอย่างไร
วิธีการแข่งขันที่ร้านค้าออนไลน์ส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้มีหลายรูปแบบ
หากเป็นร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็กๆหรือเริ่มเปิดร้านใหม่ๆยังมีคนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือเว็บเพจไม่มาก
รูปแบบการแข่งขันที่นำมาใช้อาจไม่เน้นยอดขายสินค้าแต่เลือกสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าโดยการเพิ่มยอด
Like ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ส่วนร้านค้าออนไลน์ใหญ่ๆหรือเป็ดร้านค้ามานานเป็นที่รู้จักหรือมีกลุ่มลูกค้าประจำแล้ว
การรักษายอด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น